top of page
Writer's pictureO-Tae Sathalo

mini

Updated: Jul 20, 2020

MINI



20 เรื่องน่ารู้จาก “Mini”


1. Mini เป็นรถยนต์ที่ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของยนตกรรมในยุค 60s เป็นรถยนต์สองประตูขนาดกระทัดรัดที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า มินินั้นถือกำเนิดขึ้นจากปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิงทั่วสหราชอาณาจักรในปี 1956 (มีการลดการจ่ายน้ำมันทั่วประเทศ เพื่อนำน้ำมันไปใช้ประโยนชน์ในสงคราม) ยอดขายรถใหญ่ตกฮวบ ตลาดรถเล็กคึกคักขึ้นมาแทนซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจากเยอรมัน พอเดาได้มั้ยว่ารถแบรนด์อะไร? …..Volkswagen นั่นเอง


รุ่นแรกปี 1959


2. วิกฤติคือโอกาส Leonard Loard ผู้นำบริษัท BMC (british motor corporation) จึงฟอร์มทีมสำหรับโปรเจคใหม่ขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมคลอดต้นแบบรถมินิ (prototype) ออกมาครั้งแรก ในเดือนตุลาคม 1957 โดยเรียกมันว่า “The Orange Box”


3. แม้จะเป็นรถคันเล็ก แต่พื้นที่ 80% ของรถคือพื้นที่โดยสาร จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณสามารถนั่งกัน 4 คนได้อย่างสบายในรถมินิ และแม้มันจะถูกออกแบบมาโดยเอาประโยชน์ใช้สอยเป็นตัวตั้ง แต่ดีไซน์ของรถมินิถูกยกให้เป็นยานยนต์ดีไซน์คลาสสิคและมีเอกลักษณ์ตลอดกาล แน่นอนว่า BMC ไม่รอช้าที่จะจดลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้าในทันที (ยุคนั้นคนคิดเร็วทำเร็ว มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา)


4. ดีไซเนอร์รถมินิ ‘Sir Alec Issigonis’ เกลียดรูปแบบการเปิดหน้าต่างรถแบบหมุนขึ้นหมุนลงมาก ดังนั้นรถมินิรุ่นแรกๆที่ถูกผลิตออกมาจึงเป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อนออกข้างๆ

5. Mini ไม่ใช่ชื่อแรกที่ถูกตั้งขึ้น ชื่อดั้งเดิมของ Mini คือ “Austin and Morris” ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Mini ในปี 1969 แต่บางคนในยุคนั้นก็เรียกมินิว่า “Morris Mini-Minor” นะ ด้วยความที่มีการร่วมหุ้น ถอนหุ้น กันบ่อย บวกกับมีรถหลายรุ่นที่มีชื่อเรียกเฉพาะออกมา มินิจึงเป็นที่รู้จักในหลายๆชื่อเรียก


“Morris Mini-Minor” (1959) คันแรกที่ขายในอเมริกา โดยถูกขายให้ครอบครัว Arlington ในรัฐเท็กซัส

6. Mini Mark I (มาร์ค วัน) หรือ Morris Mini-Minor ออกมาเมื่อปี 1959-67 เป็นรุ่นที่ผลิตจากต้นแบบ “The Orange Box” และ 2,000 คันจากจำนวนล็อตแรกที่ผลิตถูกส่งไปขายในประเทศต่างๆทั่วโลก ในช่วงปี 60s Mark I มียอดขายรวมกว่า 1,190,000 คัน เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดารุ่นต่างๆที่ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน


Morris Mini-Minor (1959) ภาพนี้ถูกถ่ายปี 2007 ในงานเทศกาล ‘Gaydon Mini Festival’ ปัจจุบันรถในภาพถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ British Motor Museum

7. Mini Mark II (มาร์ค ทู) ออกมาเมื่อปี 1967-70 เปิดตัวครั้งแรกในงาน British Motor Show มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งตัวบอดี้ กระจังหน้ารถ และ หน้าต่างด้านข้าง Mark II ผลิตขึ้นเป็นจำนวนกว่า 429,000 คัน มินิรุ่นนี้โด่งดังเป็นพลุแตกหลังถูกนำไปเข้าฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Italian Job เมื่อปี 1968 และยังถูกรีเมคอีกครั้งในปี 2003 โดยใช้เป็นรถ Mini Cooper รุ่นใหม่

8. Wolseley Hornet (โวลส์ลีย์ ฮอร์เนต) และ Riley Elf (ไรลี เอลฟ์) ทั้ง 2 รุ่น เป็นมินิเวอร์ชั่นที่มีดีไซน์หรูหราขึ้น ซึ่ง ‘ไรลี เอลฟ์’ จะราคาแพงกว่า ‘โวลส์ลีย์’ ดีไซน์ถูกปรับให้ปีกข้างยาวขึ้นเล็กน้อย กระโปรงหลังใหญ่ขึ้น กระจังหน้าเป็นแบบตะแกรงติดโลโก้แบรนด์ ฝาครอบล้อและกันชนทำจากโครเมียม (ซ้าย Wolseley , ขวา Riley )


9. Mini Van ออกมาเมื่อปี 1960-83 ผลิตออกมาทั้งสิ้น 521,494 คัน เป็นรถที่ถูกใช้เพื่อการค้า ราคาจึงถูกลงเพราะไม่มีภาษีรถ ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานอเนกประสงค์ ตอนหลัง Mini Van เปลี่ยนชื่อเป็น Mini 95


10. สมาชิก The Beatles ทั้งสี่คนขับ Mini Coopers

11. Mini Moke ออกมาเมื่อปี 1964-89 มินิออกแบบรถรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาเพื่อใช้ในกองทัพอังกฤษ แต่เอาเข้าจริงมันใช้งานได้ไม่สมบุกสมบันเท่าไหร่ เครื่องยนต์ที่เล็กมีกำลังไม่มากพอสำหรับการขึ้นที่สูงชันมากๆ จึงผลิตรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับใช้งานทั่วไปออกมาด้วย รุ่นนี้ผลิตมาประมาณ 50,000 คัน

12. Mini Pick-up ออกมาเมื่อปี 1961-83 ผลิตออกมาทั้งสิ้น 58,179 คัน ความยาวตั้งแต่หัวถึงท้ายของรุ่นนี้อยู่ที่ 3.4 เมตร (ยาวกว่ามินิแวน) รับน้ำหนักได้ในพิกัดเต็มที่ 680 กิโลกรัม ถูกผลิตขึ้นเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ


13. Morris Mini K ออกมาเมื่อปี 1969-1971 ผลิตและจัดจำหน่ายเฉพาะในประเทศออสเตเรีย ตัว K นั้นย่อมาจากคำว่า Kangaroo หรือจิงโจ้ เป็นรถมินิที่มีบอดี้กลมมนรุ่นสุดท้ายที่ผลิตในออสเตเรีย


14. Mini Cooper และ Cooper S (เป็นรุ่น Mark III ของมินิ) ออกมาเมื่อปี 1961-2000 มินิคูเปอร์(1961) พัฒนาขึ้นจากรถ ‘มอริส ไมเนอร์-มินิ’ ดั้งเดิม โดยเพิ่มขนาดเครื่องยนต์จาก 848 ซีซี เป็น 997 ซีซี และเพิ่มแรงม้าจาก 34 แรงม้า เป็น 55 แรงม้า ความไม่ธรรมดาของรถรุ่นนี้คือมีเกียร์ Closer-ratio, SU carburetor และดิสก์เบรกหน้า เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับรถรุ่นเล็กในยุคนั้น


ส่วนรุ่น S พัฒนาจาก มินิ คูเปอร์ธรรมดา(1963)ให้มีกำลังแรงขึ้นด้วยเครื่องยนต์ 1,071 ซีซี และเสริมแรงให้ดิสก์เบรค มินิรุ่นนี้เคยได้แชมป์แรลลี่ Monte Carlo มาแล้วในปี 1964



15. Mr.Bean ใช้มินิรุ่น Classic ซึ่งถูกนำมาเข้าฉากตลอดการถ่ายทำทั้งหมด 14 ภาค (1989-1995)

16. ปี 2015 MINI ทำยอดขายรวมจากทั่วโลกได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขายไปเป็นจำนวนทั้งหมด 338,466 คัน (รวมทุกรุ่น) เพิ่มขึ้นจากปี 2014 ถึง 12%


17. MINI รุ่นที่ขายดีที่สุดในปี 2015 คือ MINI Hatch 3 ประตู โดยขายไปเป็นจำนวน 127,194 คัน หรือ 37% จากจำนวนทั้งหมด รองลงมาคือ MINI Hatch 5 ประตู (ในรูป) ขายไปเป็นจำนวน 94,788 คัน


18. MINI Countryman เป็นรถมินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดามินิทุกรุ่น เปิดตัวครั้งแรกปี 2010 จากการสำรวจล่าสุด มินิรุ่นนี้ทำยอดขายรวมทั่วโลกไปได้กว่า 540,000 คัน ซึ่งปัจจุบัน MINI Countryman ถูกนำเข้ามาประกอบในประเทศไทยแล้ว


19. สรุปยอดขายรถ MINI ทั่วโลกย้อนหลัง 2015: 338,466 คัน // 2014: 302,183 คัน // 2013: 305,030 คัน // 2012: 301,526 คัน // 2011: 285,060 คัน // 2010: 234,175 คัน


20. ปัจจุบัน BMW Group คือบริษัทแม่ของ MINI


ข้อมูลจากmarketingoops.com




NEW MINI 5 DOOR

เต็นท์ที่แนะนำ

ใส่ได้ทุกรุ่น

mini 5 door กับ cave2.65 แบบลดขนาดความสูงลง



mini 3door

เต็นท์ที่แนะนำ

ใส่ได้ทุกรุ่น

minicooper กับเต็นท์beetle






Recent Posts

See All

Jeep

volvo

Comments


bottom of page